รู้จักมาตรฐาน ATEX สำหรับปั๊มดูดน้ำมัน

ในงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันหรือของเหลวไวไฟ ไม่ว่าจะเป็นระบบจ่ายน้ำมันดีเซลในโรงงาน การถ่ายโอนของเหลวในพื้นที่คลังเก็บ 

หรือแม้แต่ระบบเติมเชื้อเพลิงในหน้างานก่อสร้าง ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด หนึ่งในมาตรฐานความปลอดภัยที่ถูกพูดถึงบ่อยในกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้า 
คือ มาตรฐาน ATEX

แต่ ATEX คืออะไร? และเหตุใด ปั๊มน้ำมันที่ได้รับการรับรอง ATEX จึงกลายเป็นทางเลือกหลักสำหรับพื้นที่เสี่ยงระเบิด? บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับมาตรฐาน ATEX ให้ลึกขึ้นในแบบที่เข้าใจง่าย และเห็นความสำคัญอย่างชัดเจน

 

 

แต่ ATEX คืออะไร? และ เหตุใดปั๊มน้ำมันที่ได้รับการรับรอง ATEX จึงกลายเป็นทางเลือกหลักสำหรับพื้นที่เสี่ยงระเบิด? 

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับมาตรฐาน ATEX ให้ลึกขึ้นในแบบที่เข้าใจง่าย และเห็นความสำคัญอย่างชัดเจน
 
 

ATEX คืออะไร? 

ATEX (มาจากคำว่า ATmosphères EXplosibles) คือชื่อย่อของคำสั่งและข้อบังคับของสหภาพยุโรป (European Union Directives) ที่กำหนดข้อกำหนดด้านสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับการผลิตและการใช้งานอุปกรณ์ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดการระเบิดจากก๊าซ ไอระเหย หมอก หรือฝุ่นละอองที่ติดไฟได้
 
 
ในบริบทของ ปั๊มดูดน้ำมันเชื้อเพลิง อย่างน้ำมันเบนซินหรือดีเซลนั้นเป็นสารไวไฟที่สามารถปล่อยไอระเหยออกมา ซึ่งเมื่อรวมกับออกซิเจนในอากาศในอัตราส่วนที่เหมาะสมและมีแหล่งจุดติดไฟ เช่น ประกายไฟ ความร้อน หรือไฟฟ้าสถิต ก็สามารถก่อให้เกิดการระเบิดหรือเพลิงไหม้ได้ ด้วยเหตุนี้ อุปกรณ์ที่ใช้ในสถานีบริการน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็น ปั๊มดูดน้ำมัน, หัวจ่ายน้ำมัน, หรือแม้แต่ ระบบควบคุม จึงจำเป็นต้องได้รับการออกแบบและผลิตให้มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้
 
 

ทำไมปั๊มดูดน้ำมัน ถึงต้องมีมาตรฐาน ATEX?

 
ปั๊มดูดหรือถ่ายโอนน้ำมัน มักทำงานในพื้นที่ที่มีไอเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันดีเซล เบนซิน หรือน้ำมันหล่อลื่นความหนืดสูง ไอของเหลวเหล่านี้สามารถติดไฟได้หากมีแหล่งจุดประกาย ที่เกิดจากความร้อนจากมอเตอร์ หรือประกายไฟจากวงจรไฟฟ้า
 
 
การใช้ "ปั๊มน้ำมันที่ได้รับการรับรอง ATEX" จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุไม่คาดฝัน โดยเฉพาะสถานที่เหล่านี้
1. โรงงานอุตสาหกรรมพลังงาน
2. โรงกลั่นน้ำมัน
3. คลังน้ำมัน
4. พื้นที่ก่อสร้างหรือเหมืองแร่
5. ระบบเติมน้ำมันสำหรับยานพาหนะในฟลีทขนาดใหญ่
 
 

โซนอันตรายกับการกำหนดมาตรฐาน ATEX 


เพื่อกำหนดระดับความเสี่ยงและข้อกำหนดของอุปกรณ์ มาตรฐาน ATEX ได้แบ่งพื้นที่อันตรายออกเป็นโซนต่างๆ “ตามความถี่และระยะเวลาที่ไอระเหยหรือก๊าซไวไฟจะปรากฏอยู่” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับก๊าซ ไอระเหย และหมอก จะแบ่งเป็นเป็นโซน ดังนี้
 
โซน 0 (Zone 0): พื้นที่ที่สารไวไฟปรากฏอยู่ตลอดเวลา หรือเป็นระยะเวลานาน เช่น ภายในถังเก็บน้ำมัน
โซน 1 (Zone 1): พื้นที่ที่สารไวไฟมีโอกาสปรากฏขึ้นเป็นบางครั้งคราวในการทำงานปกติ เช่น บริเวณท่อส่งน้ำมัน หรือพื้นที่รอบหัวจ่าย
โซน 2 (Zone 2): พื้นที่ที่สารไวไฟไม่น่าจะปรากฏขึ้น หรือปรากฏเพียงช่วงเวลาสั้นๆ หากปรากฏขึ้น
 
การจำแนกโซนเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลือกใช้ ปั๊มน้ำมัน ATEX และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เหมาะสม เนื่องจากอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับโซนที่มีความเสี่ยงสูงกว่า (เช่น Zone 0) จะมีมาตรการป้องกันการระเบิดที่เข้มงวดกว่า
 
 

ความสำคัญของการเลือกใช้ปั๊มน้ำมันที่ได้มาตรฐาน ATEX

การเลือกใช้ ปั๊มดูดน้ำมัน ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ATEX ไม่ใช่แค่การปฏิบัติตามกฎระเบียบเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งส่งผลดีในหลายด้าน ได้แก่
 
1. ป้องกันการระเบิดและเพลิงไหม้: อุปกรณ์ที่ผ่านการรับรอง ATEX ถูกออกแบบมาเพื่อลดหรือกำจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟและความร้อนที่อาจนำไปสู่การจุดติดเชื้อเพลิง
2. ความปลอดภัยของบุคลากร: ปกป้องชีวิตและสุขภาพของพนักงานและผู้ใช้งานจากอุบัติเหตุร้ายแรง
3. ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน: ป้องกันความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างและอุปกรณ์ของสถานีบริการ
4. ความน่าเชื่อถือและการปฏิบัติตามกฎหมาย: สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องโดยปราศจากปัญหาทางกฎหมาย
 
 

ความสำคัญเชิงกฎหมายในการเลือกใช้ปั๊มที่มี ATEX


สอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับในประเทศและสากล ดังนี้
1. ในระดับสากล (สหภาพยุโรปและประเทศที่ยึดมาตรฐานยุโรป)
การใช้ปั๊มในพื้นที่เสี่ยงระเบิด เช่น โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานเคมี หรือคลังเชื้อเพลิง ต้อง ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ ATEX Directive อย่างเคร่งครัด ได้แก่:
 
ATEX Directive 2014/34/EU
กำหนดให้อุปกรณ์และระบบป้องกันที่ใช้ในบรรยากาศไวไฟ (Explosive Atmospheres) ต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงาน Notified Body

ต้องมีเครื่องหมาย CE พร้อมสัญลักษณ์ ATEX เพื่อยืนยันว่าปลอดภัยตามมาตรฐาน

ผู้ผลิตและผู้นำเข้าสินค้าหากไม่ปฏิบัติตาม อาจถูกห้ามจำหน่ายสินค้าในตลาดยุโรป และถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย

ผลทางกฎหมาย:
หากเกิดอุบัติเหตุโดยใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ผู้ประกอบการอาจถูกฟ้องร้อง, เสียค่าปรับ, หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตดำเนินกิจการ
 
2. ในประเทศไทย (แม้ไม่ใช้ ATEX โดยตรง แต่ยึดตามมาตรฐานสากล)
ประเทศไทยยังไม่บังคับใช้มาตรฐาน ATEX โดยตรงในเชิงกฎหมาย แต่มีข้อบังคับและแนวทางที่ สอดคล้องหรือเทียบเท่า ATEX เช่น
 
พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535
  • ระบุให้โรงงานประเภทที่มีการใช้สารไวไฟ ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ “ปลอดภัยต่อการระเบิด”
  • เจ้าพนักงานสามารถสั่งระงับการใช้เครื่องจักรที่ไม่ปลอดภัยได้

พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535

  • กำหนดให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ใช้งานวัตถุอันตราย ต้องควบคุมความเสี่ยงรั่วไหลหรือระเบิด
  • ปั๊มที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้การจัดเก็บหรือขนถ่ายน้ำมันผิดกฎหมาย

แนวทางด้านความปลอดภัยจากหน่วยงานรัฐ

  • กรมโรงงานอุตสาหกรรม
  • กรมควบคุมมลพิษ
  • วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.)

ระบุให้ เลือกใช้อุปกรณ์ที่ทนการระเบิดและผ่านการรับรอง หากติดตั้งในพื้นที่ไวไฟ เช่น Zone 0, 1, 2

ผลทางกฎหมาย:

หากเกิดเหตุเพลิงไหม้หรือระเบิด และพบว่าใช้อุปกรณ์ที่ไม่มีมาตรฐานรองรับ ผู้ประกอบการอาจถูกพิจารณาว่าประมาทเลินเล่อโดยชัดแจ้ง และอาจไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย
 
 
มาตรฐาน ATEX คือข้อกำหนดที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับ ปั๊มดูดน้ำมัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการระเบิด การทำความเข้าใจและเลือกใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการรับรอง ATEX จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน และผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
 
หากคุณกำลังมองหา ปั๊มดูดน้ำมัน, ปั๊มจ่ายน้ำมัน, หรืออุปกรณ์สำหรับระบบน้ำมันที่ได้มาตรฐาน ATEX และต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อย่าลังเลที่จะปรึกษาเรา


แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 1,831,875