Q&A ระบบจัดการใช้น้ำมัน ในธุรกิจที่ผู้ใช้น้ำมันควรรู้

การเลือกใช้ “ระบบจัดการน้ำมัน หรือ โปรแกรมควบคุมการเติมน้ำมัน” ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญสำหรับทั้งผู้ใช้น้ำมันรายย่อยและธุรกิจขนาดใหญ่ 

เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์และขนส่งธุรกิจรรับเหมาก่อสร้าง และอุตสากรรมอื่นๆ ที่มีการใช้น้ำมันจำนวนมากและต้องการควระบบการจัดการใช้น้ำมัน เพื่อควบคุมการใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ 

องค์กรที่อยากลดความสูญเสียจากการใช้น้ำมัน หรือแม้แต่ผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการความโปร่งใสและสะดวกสบายในการตรวจสอบข้อมูลการเติมน้ำมัน

 

 
      ก่อนการลงทุนติดตั้งและใช้งาน โปรแกรมควบคุมการใช้น้ำมัน ผู้ใช้น้ำมันย่อมมีคำถามมากมายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงานของระบบ ความคุ้มค่า ประโยชน์ที่ได้รับ ไปจนถึงวิธีจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้น บทความนี้ ทัสพาว จึงได้รวบรวมทุกคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบที่ผู้ใช้น้ำมันควรรู้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ มาฝากกัน

ปัจจุบันระบบจัดการน้ำมัน นิยมใช้ในธุรกิจอะไรบ้าง ?


หลากหลายธุรกิจที่มีการใช้น้ำมันปริมาณมากหรือมีความจำเป็นต้องควบคุมต้นทุนอย่างรัดกุม โดยธุรกิจหลัก ๆ ที่นิยมใช้ ได้แก่
 
1. ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
ได้แก่ รถบรรทุก รถตู้ รถขนส่งสินค้า มีการใช้น้ำมันทุกวันวันละหลายเที่ยว จึงจำเป็นที่ต้องมีระบบที่เข้ามาช่วยตรวจสอบปริมาณการเติมน้ำมัน และควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้บานปลาย
 
2. ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและงานโยธา
ได้แก่ รถแบ็กโฮ รถเครน รถบรรทุกดิน หรือเครื่องจักรกลหนัก ยิ่งมีการใช้รถเยอะ ยิ่งต้องเน้นการควบคุมการเติมน้ำมันให้ถูกต้อง ตรวจสอบได้จริง ลดความสูญเสียจากการใช้งานหน้างาน
 
3. ธุรกิจเหมืองแร่
ได้แก่ รถขุด รถบรรทุกขนาดใหญ่ ต้องใช้น้ำมันปริมาณเยอะในทุก ๆ วัน ระบบ B.smart เข้ามาช่วยลดปัญหาการใช้น้ำมันเกินจริงและติดตามประสิทธิภาพการใช้งาน
 
4. ธุรกิจเกษตรเชิงอุตสาหกรรม
ยกตัวอย่างเช่น ฟาร์มขนาดใหญ่ที่มีรถแทรกเตอร์หรือเครื่องจักรการเกษตรจำนวนมาก ระบบจะช่วยบันทึกข้อมูลการใช้น้ำมันแยกตามเครื่องจักร เพื่อง่ายต่อการบริหารและจัดการได้คุ้มค่า
 
5. โรงงานและคลังสินค้า
ใช้สำหรับรถโฟล์คลิฟท์ รถบรรทุกภายในโรงงาน สามารถช่วยควบคุมงบประมาณและง่ายต่อการวางแผนการซื้อน้ำมันล่วงหน้าได้แม่นยำขึ้น
 
6. ธุรกิจขนส่งสาธารณะและรถโดยสาร
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเดินรถบัส รถตู้โดยสาร สามารถลดความเสี่ยงจากการทุจริตน้ำมัน โดยตรวจสอบค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวได้อย่างโปร่งใส
 

ระบบจัดการน้ำมันที่ถูกต้องและครบถ้วน 
ต้องมีอุปกรณ์และกระบวนการอย่างไรบ้าง ?


1. ข้อมูลของเครื่องมือ เครื่องจักรต่างๆ ที่ต้องใช้น้ำมัน เช่น มีรถยนต์ รถบรรทุก เครื่องจักรกี่คัน
2. ประมาณการใช้น้ำมัน ต่อวัน ต่อเดือน ต่อปี เพื่อศึกษาความคุมค่าของการลงทุน
3. ศึกษากฏหมายควบคุมการใช้น้ำมัน เพราะน้ำมันเป็นวัตถุอันตราย มีกฏหมายควบคุมการใช้งาน เช่น การขออนุญาตการใช้น้ำมัน 
4. อุปกรณ์ที่จำเป็นในการใช้น้ำมัน
  • ถังน้ำมัน สำหรับบรรจุและกักเก็บน้ำมัน ที่ถูกต้องตามกฏหมายกำหนด เพื่อการใช้งานที่เพียงพอต่อการใช้งานน้ำมัน ในรอบการสั่งซื้อ
  • ตู้จ่ายน้ำมัน ที่ตอบโจทย์สำหรับเติมน้ำมันให้กับ เครื่องจักรต่างๆ 
  • อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ตามกฏหมายกำหนด เช่น ระบบดับเพลิง อุปกรณ์ส่วนควบ ถังและท่อน้ำมันต่างๆ เป็นต้น
  • โปรแกรมควบคุมการเติมน้ำมัน (สำหรับองค์ที่ต้องการ การจัดการใช้น้ำมัน)
 
ฟังก์ชันสำคัญที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจและเลือกใช้ “ระบบจัดการน้ำมัน”
 
การบันทึกข้อมูลการเติมน้ำมันแบบอัตโนมัติ
      การเก็บบันทึกของระบบตู้จ่ายทั่วไป เมื่อเติมน้ำมันผ่านตู้จ่ายแล้ว ผู้เติมหรือคนควบคุมการเติมน้ำมัน จะจดบันทึกในสมุด แล้วนำไปบันทึกเข้าคอมพิวเตอร์อีกที ซึ่งอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ ในปัจจุบันมีตัวช่วยทำให้ขั้นตอนดังกล่าวง่ายขึ้น รวดเร็วและลดข้อผิดพลาดในการบันทึกได้เป็นอย่างดี เช่น ระบบ B.SMART ของ PIUSI มีการบันทึกข้อมูลการเติมน้ำมันแบบอัตโนมัติ เป็นฟังก์ชันที่สามารถช่วยลดภาระงานเอกสาร ตรวจสอบข้อมูลได้เรียลไทม์ และไม่เพิ่มขั้นตอนที่ยุ่งยากให้กับผู้ใช้งาน เมื่อเทียบกับวิธีเดิม เช่น การกรอกข้อมูลด้วยมือ อีกทั้งยังมีความน่าเชื่อถือ ป้องกันข้อผิดพลาด และช่วยให้ธุรกิจตรวจสอบการใช้น้ำมันได้อย่างแม่นยำและโปร่งใส
 

4 ปัญหาการใช้น้ำมันแบบไหน เจ้าของธุรกิจควรพิจารณา
ติดตั้งโปรแกรมควบคุมการเติมน้ำมัน ?

 
 
 
      แน่นอนว่าการลงทุนติดตั้งระบบจัดการน้ำมัน  อาจไม่ได้จำเป็นสำหรับทุกองค์กร แต่ในหลายกรณี การมีระบบบริหารจัดการที่ชัดเจน ถือว่าเป็นทางออกที่คุ้มค่าและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมาก โดยประเภทปัญหาการใช้น้ำมันที่เจ้าของธุรกิจควรพิจารณาในการติดตั้งระบบ มีดังนี้
 
1. ควบคุมค่าใช้จ่ายน้ำมันไม่ได้
ธุรกิจที่มีรถหลายคัน มักเจอปัญหาค่าน้ำมันเกินงบที่วางไว้ ไม่มีเครื่องมือช่วยตรวจสอบการใช้น้ำมันรายคันหรือรายเที่ยว โปรแกรมควมคุมการจัดการเติมน้ำมัน จะช่วยบันทึกค่าใช้จ่ายน้ำมันแบบเรียลไทม์ พร้อมรายงานสรุป ทำให้เจ้าของกิจการรู้ได้ทันทีว่าใช้งบเกินตรงไหน
 
2. การบันทึกข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือใช้วิธีเขียนมือ
การเก็บบิลหรือกรอกข้อมูลเองอาจตกหล่น ผิดพลาด หรือใช้เวลานาน
ข้อมูลย้อนหลังไม่ชัดเจน ทำให้ตรวจสอบไม่ได้  จะบันทึกข้อมูลอัตโนมัติทุกครั้งที่เติม เช่น เวลา ปริมาณ ลิตร และผู้ใช้งาน ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลครบถ้วน
 
3. น้ำมันสูญหาย หรือตรวจสอบไม่ได้
พบว่าน้ำมันที่ซื้อมาบางส่วน “หายไป” โดยไม่รู้สาเหตุ ขาดระบบติดตามว่าเติมจริงหรือไม่ เติมให้รถคันไหน มีระบบยืนยันผู้ใช้งานและผูกข้อมูลกับทะเบียนรถ/คนขับ ลดความเสี่ยงการทุจริต และทำให้ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
 
4. ใช้น้ำมันเกินมาตรฐานรถ
รถบางคันใช้น้ำมันมากผิดปกติ แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากเครื่องยนต์มีปัญหา หรือคนขับใช้งานไม่เหมาะสม  ถ้าโปรแกรมควบคุมการเติมน้ำมัน มีฟังก์ชันวิเคราะห์อัตราการสิ้นเปลือง (Fuel Economy) ช่วยเปรียบเทียบการใช้น้ำมันของแต่ละคัน ทำให้แก้ไขได้ตรงจุดหากธุรกิจของคุณกำลังเจอหนึ่งใน 4 ปัญหานี้ การเลือกใช้โปรแกรมควบคุมการเติมน้ำมันเข้ามาช่วยให้ควบคุมต้นทุนได้ง่ายขึ้น โปร่งใส และมีข้อมูลที่พร้อมสำหรับการตัดสินใจ ในการดำเนินธุรกิจต่อไป
 

10 คำถามพบบ่อย เกี่ยวกับโปรแกรมควบคุมการเติมน้ำมัน B.smart 
(ฉบับเจ้าของธุรกิจและผู้ใช้น้ำมัน)

 



Q1. ระบบ B.smart คืออะไร?
A1: B.smart เป็นระบบจัดการน้ำมันอัจฉริยะ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับกับธุรกิจที่มีการใช้น้ำมันปริมาณมาก ช่วยบันทึกและตรวจสอบข้อมูลการเติมน้ำมันแบบเรียลไทม์ ลดปัญหาน้ำมันสูญหายแบบปริศนา และช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ
 
Q2. ธุรกิจใดควรใช้ระบบนี้?
A2: เหมาะกับธุรกิจที่มีการใช้น้ำมันจำนวนมาก เช่น ขนส่ง โลจิสติกส์ ก่อสร้าง เหมืองแร่ เกษตรเชิงอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจทั่วไปที่ต้องการความโปร่งใสและตรวจสอบค่าใช้จ่ายได้อย่างชัดเจน
 
Q3. ระบบ B.smart ช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร?
A3: ระบบจะบันทึกข้อมูลทุกครั้งที่มีการเติมน้ำมัน ทำให้เห็นภาพรวมการใช้งานจริง สามารถวิเคราะห์หาความผิดปกติ เช่น เติมเกิน งบเกิน หรือรถใช้น้ำมันมากกว่าปกติ จึงช่วยลดการสูญเสียโดยไม่จำเป็น
 
Q4. ระบบใช้งานยุ่งยากไหม?
A4: ไม่ยุ่งยาก ผู้ใช้งานเพียงใช้แอปพลิเคชันในการยืนยัน ส่วนข้อมูลจะถูกบันทึกอัตโนมัติในระบบ สามารถเรียกดูย้อนหลังได้ตลอดเวลา 
 
Q5. ใช้กับรถหลายคันพร้อมกันได้หรือไม่?
A5: B.smart ออกแบบมาให้รองรับรถจำนวนมาก สามารถแยกการใช้งานตามทะเบียนรถหรือคนขับ รวมถึงกำหนดปริมาณน้ำมันแต่ละคันได้
 
Q6. ถ้าข้อมูลเติมน้ำมันผิดพลาดจะทำอย่างไร?
A6: ระบบมีการบันทึกหลักฐานทุกครั้ง ทั้งเวลา ปริมาณ และสถานที่ หากพบความผิดพลาดสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทันที และแจ้งฝ่ายบริการเพื่อแก้ไข
 
Q7. ระบบ B.smart ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง?
A7: จำเป็นต้องมีตู้จ่ายน้ำมันที่เชื่อมต่อกับระบบ B.smart และอุปกรณ์ยืนยันการใช้งาน เช่น บัตร หรือรหัสผ่าน ส่วนฝั่งผู้บริหารสามารถเข้าผ่านคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้ทันที
 
Q8. ปลอดภัยและป้องกันการโกงได้จริงหรือไม่?
A8: ระบบจะผูกข้อมูลกับผู้ใช้งานและทะเบียนรถ ทำให้ไม่สามารถเติมแทนกันได้ง่าย ลดการโกง และมีรายงานตรวจสอบย้อนหลังได้ครบถ้วน
 
Q9. ต้องเสียค่ารายเดือนหรือรายปีไหม?
A9: หลังชำระค่าสินค้าแล้ว “ไม่มีการจ่ายรายเดือนหรือรายปี” เพิ่มเติม จ่ายครั้งเดียวจบตลอดการใช้งาน
 
Q10. ทำไมธุรกิจถึงควรเลือกใช้ B.smart?
A10: เพราะช่วยให้การจัดการน้ำมันเป็นระบบมากขึ้น ข้อมูลชัดเจน โปร่งใส ควบคุมงบประมาณได้จริง และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับธุรกิจที่ใช้น้ำมันจำนวนมาก
 
      ทัสพาว เราหวังว่าคำถามและคำตอบเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ระบบจัดการน้ำมัน B.smart ที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น 


Visitors: 2,026,119